ก้าวแรกสู่สังเวียน ปัจจุบันนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากหนุ่มวัยเพียง 19 ปี ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ครบเครื่อง เตะต่อยเจ้าของค่าตัวที่สูงในตอนนี้ 130,000 บาท ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาเขาเป็นนักชกดาวรุ่งดีกรีแชมป์พิกัด 126 ปอนด์ เริ่มต้นต่อยมวยตอนอายุ 7 ขวบ จากค่าตัวเพียง 800 บาท สู่ยอดมวยค่าตัวหลักแสน การันตีด้วยรางวัลจากสถาบันต่างๆ ผลงานการชกตลอดปี ที่ชนะรวด 7 ไฟต์ติด
ไม่แพ้ใคร ไฟต์ที่น่าจับตามองคงจะเป็นการเอาชนะกุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย เจ้าของรางวัลยอดมวยถ้วยพระราชทาน คนล่าสุดแบบไม่ค้านสายตาคนดูทำให้เขาขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 5 แคนดิเดตลุ้นรางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยมประจำปี พ.ศ.2561 หรือรางวัลยอดมวย จากผลงานที่ผ่านมารนั้นบวกกับชื่อเสียงที่มีหลายคนจับตามองทำให้แผ่วงกว้างเป็นที่รู้จักมากขึ้น
ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนเข้าสร้างชื่อเสียงในพัทยา เมืองที่ไม่เคยหลับไหลมีสถานบันเทิงต่างๆ นิยมเอามวยเข้ามาเป็นสีสัน ตะวันฉาย หรือ (“กัน” ด.ช.ณรงค์ศักดิ์ แก้วมาลา) ไล่ต้อนคู่ชกในรุ่นน้ำหนักเดียวกันขาดลอย จนไม่สามารถหาคู่ชกได้ในจังหวัด จนทำให้เขาวางเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นนั้นก็คือการเข้ามาชกในกรุงเทพ
ตอนอายุ 14 ปี เวทีลุมพินี เวทีมวยมาตรฐานของเมืองไทยที่เหล่าบรรดานักสู้ต่างใฝ่ฝันมาสักครั้งหนึ่งในชีวิตตอนนั้นเข่าเป็นดาวรุ่งมวยเด็กน่าจับตามองจนอายุ 16 ปี นำมาซึ่งการซื้อตัวมูลค่าเกือบครึ่งล้านในนาม ค่ายพี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม
ด้วยเส้นทางในเมืองกรุงต่างจากต่างจังหวัดมากทำให่ตัวเขาต้องกระตือลือล้นฝึกซ้อม เพื่อได้ใกล้เคียงกับเหล่าซุปตาร์ดังในค่าย อาทิเช่น วันฉลอง, ปกรณ์, เสือคิม, แสนสะท้าน หรือ ตะวันฉาย ไอดอลของเขา ชัยชนะไม่ได้มีเสมอไป นัดที่ฝังใจคือไฟต์ที่แพ้ ตีโต้ หอยหวานโภชนา กับ วันมีโชค ภูหงส์ทอง หลังจากนั้นเขานำประสบการณ์มาพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเพื่ออนาคตได้ไปชกในเวทีที่ใหญ่กว่านี้
ติดตามข่าววงการมวย อัพเดทผลมวยย้อนไลังได้ที่:http://elganocafe.com
